• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

ประเภทการสกรีนเสื้อมีอะไรบ้าง ? คำตอบจาก โฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ

Started by Cindy700, Aug 10, 2025, 10:24 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700


พอเอ่ยถึง การสกรีนเสื้อ ผู้คนมักนึกถึงแค่ การเอาลายไปปริ้นแล้วรีดติดเสื้อ อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของการสกรีนเสื้อ มีความหลากหลายกว่าที่คิด และมีเทคนิคหลายแบบให้เลือกใช้ ตามแต่ว่า งานต้องการรูปแบบไหน ใช้กับผ้าอะไร อยากให้ทนทานแค่ไหน หรือแม้แต่ ความรู้สึกตอนสัมผัส ลวดลายบนเสื้อ ก็ส่งผลต่อการตัดสินใจ ผู้เริ่มต้นหลายคนอาจสงสัยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" จริง ๆ แล้ว คนบางคนอาจเคยได้ยินคำว่า "สกรีนจม" หรือบางที "สกรีนลอย" แต่ไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไง วันนี้ ผมจะพาไล่ตั้งแต่พื้นฐาน ตั้งแต่พื้นฐานอย่างครบถ้วน จนคุณจะสามารถเลือกวิธีที่ลงตัวกับงานของคุณได้.



เปิดด้วย คำถามที่หลายคนสงสัย ที่มักถูกถามบ่อยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" ความจริงแล้ว ถ้านับรวมทุกเทคนิคในปัจจุบัน ก็มีหลายแบบมาก แต่ถ้าโฟกัสที่ประเภทหลักที่นิยมกัน ก็จะมี ซิลค์สกรีน (Silk Screen), เทคนิคฮีตทรานเฟอร์, เทคนิคซับลิเมชัน, เทคนิค DTG, DTF (Direct to Film), เฟล็กซ์ (Flex) และยังมี เทคนิคย่อย ๆ อีกเช่น ฟอยล์, ปั๊มนูน, พัฟสกรีน เป็นต้น แต่ละแบบก็จะมี คุณสมบัติ, ความทน, ต้นทุน และข้อเด่นข้อด้อย ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น การพิมพ์ซิลค์สกรีนเหมาะสำหรับงานล็อตใหญ่ เพราะต้นทุนต่อชิ้นถูกและสีทน แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำบล็อกก่อน ในขณะที่ DTG จะพิมพ์ตรงลงบนผ้า เหมาะกับงานความละเอียดสูงและจำนวนชิ้นไม่เยอะ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องทำบล็อก พิมพ์จากไฟล์ได้ทันที DTF ก็กำลังมาแรง เพราะพิมพ์ลงฟิล์มแล้วรีดกับผ้าได้หลายชนิด สีสวยสดและทนทานสูง



ต่อไปคือเรื่องที่หลายคนยังสับสน "สกรีนจม คือ อะไร" สกรีนจมก็คือ วิธีการพิมพ์หรือสกรีนที่ทำให้เนื้อหมึกซึมเข้าไปในเส้นใยผ้า ทำให้เวลาสัมผัสผิวผ้าจะรู้สึกเรียบเนียน เสมือนว่าไม่มีอะไรนูนขึ้นมา ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ การพิมพ์แบบซับลิเมชันบนผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือซิลค์สกรีนที่ใช้หมึกบางประเภท โดยหมึกจะซึมเข้าเนื้อผ้า เมื่อซักแล้วยังติดทนเหมือนเดิม เพราะมันไม่ได้ลอกออกง่าย ใส่แล้วรู้สึกสบาย เนื่องจากไม่มีชั้นหมึกหนา ข้อดีคือทนต่อการซักมาก สีคงทน เหมาะกับงานที่เน้นความคงทนในระยะยาว




ในทางตรงกันข้าม "สกรีนลอย คือ" การสกรีนที่ทำให้หมึกหรือลายสกรีนอยู่บนผิวผ้า ในลักษณะที่มองเห็นความนูนชัดเจน เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความสูงต่ำ ตัวอย่างเช่นการใช้หมึกพัฟ (Puff Ink) ซึ่งเมื่ออบแล้วหมึกจะฟูขึ้นมานุ่มนวล หรือการใช้เฟล็กซ์ โดยตัดฟิล์มเป็นลวดลายแล้วรีดให้ติดบนผ้า ข้อเด่นของสกรีนลอยคือ ลวดลายจะเด่นชัด สีสดใส และยังสามารถเพิ่มลูกเล่นได้ อย่างเช่นเงา, นูน หรือพื้นผิวมีลวดลายสัมผัส ส่วนข้อเสียคือ ถ้าดูแลไม่ดีหรือซักแรงเกินไป อาจทำให้หมึกแตกลอกง่ายกว่าแบบสกรีนจม



การตัดสินใจว่าจะเลือกสกรีนจมหรือสกรีนลอย ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของงาน ถ้าอยากได้เสื้อที่ใส่สบาย ลายไม่รบกวนสัมผัสผิว พร้อมความทนต่อการซักนาน ๆ สกรีนจมก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากอยากได้งานเด่นชัด มีลูกเล่น และเน้นลวดลายให้ชัดเจน สกรีนลอยก็น่าสนใจมาก ปัจจุบันยังนิยมผสมผสานทั้งสองแบบ ในเสื้อตัวเดียวกัน เพื่อให้ได้ทั้งความทนทานและความสวยงาม

จากประสบการณ์ของผม ลูกค้าหลายคนที่มาทำเสื้อกับร้านสกรีน ส่วนมากไม่ทราบว่าตัวเลือกหลากหลายมาก เมื่อถามคำว่า สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ก็มักจะได้คำตอบกว้าง ๆ แต่ไม่รู้รายละเอียด ถ้าเรารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก เราก็จะสามารถสื่อสารกับร้านได้ชัดขึ้น เช่น ถ้าอยากทำเสื้อทีมฟุตบอลที่ต้องซักบ่อยและไม่อยากให้ลายลอก ก็อาจเลือกสกรีนจมด้วยหมึกที่ซึมเข้าเส้นใย ถ้าอยากทำเสื้อแฟชั่นลายเด่น ก็ใช้เทคนิคสกรีนลอย หรือเลือกเฟล็กซ์เงาเพื่อเพิ่มลูกเล่น

ผมเคยเจองานเสื้อยืดพรีเมียม ที่ใช้การซิลค์สกรีนหมึกน้ำจนซึมลงผ้าฝ้าย กลายเป็นสกรีนจมที่เนียนมาก หลังซักก็ไม่ซีด และยังคงใส่สบายเพราะผ้ายังระบายอากาศได้ดี ในด้านแฟชั่นสตรีทหลายแบรนด์นิยมหมึกพัฟหรือเฟล็กซ์ เพื่อให้ลายสกรีนลอยดูมีมิติ ทั้งมองและจับรู้สึกพิเศษกว่าเสื้อธรรมดา

อีกเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบคือ สกรีนจมและสกรีนลอยไม่ใช่วิธีที่เลือกได้เพียงแบบเดียว บางครั้งช่างสกรีนสามารถปรับสูตรหมึกหรือขั้นตอนการพิมพ์ ให้เกิดผลแบบครึ่งจมครึ่งลอย เช่น ใช้หมึกที่ซึมเข้าเนื้อผ้าบางส่วน แต่ยังคงเหลือชั้นบาง ๆ บนผิวให้เห็นความนูนเล็กน้อย ทำให้ได้ทั้งความทนและความรู้สึกพิเศษเวลาสัมผัส

ถ้าลองมองในมุมการใช้งานจริง การทราบว่าสกรีนเสื้อมีกี่แบบ ก็จะช่วยให้เราประเมินราคาได้ถูกด้วย เพราะแต่ละเทคนิคมีต้นทุนต่างกัน ตัวอย่างเช่นซิลค์สกรีนถ้าทำปริมาณเยอะจะราคาถูก ในกรณีทำไม่กี่ตัว DTG หรือ DTF คุ้มกว่าเนื่องจากไม่ต้องทำบล็อก สกรีนลอยบางชนิดต้องใช้ทั้งเครื่องตัดเฟล็กซ์และเครื่องรีดคุณภาพดี เพื่อให้ฟิล์มติดแนบแน่นและไม่หลุดลอกง่าย ขณะที่สกรีนจมบางแบบต้องใช้เครื่องอบและหมึกพิเศษราคาแพงกว่า

ในมุมมองของคนที่ชอบเสื้อสกรีนและเคยทำขายด้วย ผมเห็นว่าความเข้าใจพื้นฐานพวกนี้สำคัญจริง ๆ ถ้าเข้าใจว่าสกรีนจม คือ อะไร สกรีนลอย คือ อะไร และสกรีนเสื้อมีกี่แบบ ก็ทำให้เราสั่งงานได้ตามความต้องการ โดยไม่รู้สึกผิดหวังหลังงานเสร็จ ถ้าเจอร้านที่พร้อมอธิบายและให้คำแนะนำตรง ๆ บอกข้อดีข้อเสียของแต่ละเทคนิคอย่างชัดเจน เราก็จะได้งานที่ลงตัวทั้งคุณภาพ ความสวย และงบ

ในความเป็นจริง การเลือกเทคนิคสกรีนก็เหมือนกับเลือกวัตถุดิบทำอาหาร ถ้าเราเลือกถูกตั้งแต่แรก ผลลัพธ์ก็จะออกมาดีและใช้งานได้ตรงใจ อย่างเสื้อสกรีนที่ดีไม่ใช่แค่สวยตอนใหม่ ๆ แต่ต้องคงความสวยและความทนไปได้นาน เพราะการรู้ความต่างของสกรีนจมกับสกรีนลอยคือความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรมี

ข้อมูลติดต่อร้าน HOSHI KAIZEN
เบอร์โทรศัพท์: 098‑384‑5455
(ช่วงเวลาทำการ: 09:00 – 23:00 น. ทุกวัน)
LINE Official: @ho‑shi
เว็บไซต์ : www.ho-shi.com
(สามารถติดต่อเพื่อขอใบเสนอราคา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา)
อีเมล: [email protected]

Beer625

ประเภทการสกรีนเสื้อมีอะไรบ้าง ? คำตอบจาก โฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ

Beer625

งานสกรีนเสื้อมีแบบไหนบ้าง ? คำตอบจาก โฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ

Chigaru

ประเภทการสกรีนเสื้อมีอะไรบ้าง ? คำตอบจาก ร้านสกรีนโฮชิ