อาการปวดท้องตรงกลาง (https://www.vimut.com/article/abdominal-pain)สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับลักษณะของอาการและปัจจัยอื่น ๆ เช่น ระยะเวลาที่ปวด ความรุนแรง และอาการร่วม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือมีไข้ เป็นต้น สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่:
สาเหตุของอาการปวดท้องตรงกลาง
1.  อาหารไม่ย่อย (Dyspepsia) 
  - เกิดจากการกินอาหารมากเกินไป หรืออาหารที่ย่อยยาก
  - อาจรู้สึกแน่นท้อง เรอเปรี้ยว หรือแสบร้อนกลางอก
2. กรดไหลย้อน (GERD)  
  - อาการปวดท้องตรงกลางร่วมกับแสบร้อนกลางอก
  - อาจมีอาการเรอเปรี้ยวหรือขมในคอร่วมด้วย
3. กระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis) 
  - เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย H. pylori หรือการใช้ยากลุ่ม NSAIDs เป็นเวลานาน
  - มักมีอาการปวดท้องตรงกลางหรือจุกแน่นหลังรับประทานอาหาร
4. โรคกระเพาะอาหาร (Peptic Ulcer) 
  - อาจมีอาการปวดท้องตรงกลางที่สัมพันธ์กับการกินอาหาร (ปวดมากขึ้นหรือดีขึ้นหลังอาหาร)
  - อาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำในกรณีรุนแรง
5. ลำไส้อักเสบ (Enteritis) 
  - มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
  - มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย
6. นิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) 
  - อาจมีอาการปวดท้องตรงกลางหรือด้านขวาบน ร่วมกับอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
  - ปวดมักเกิดหลังทานอาหารมัน ๆ
7. ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) 
  - อาการปวดท้องตรงกลางรุนแรง อาจร้าวไปหลัง
  - มักสัมพันธ์กับการดื่มแอลกอฮอล์หรือโรคนิ่วในถุงน้ำดี
8. ลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS) 
  - ปวดท้องเป็น ๆ หาย ๆ ร่วมกับอาการท้องผูกหรือท้องเสีย
  - มักสัมพันธ์กับความเครียดหรืออาหารบางชนิด
เริ่มปวดท้องตรงกลางควรทำอย่างไร?
1. วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น  
  - หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด มัน หรือย่อยยาก
  - ดื่มน้ำอุ่นหรือชาคาโมมายล์เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
  - พักผ่อนให้เพียงพอ
2. สังเกตอาการเพิ่มเติม  
  - หากมีอาการรุนแรง เช่น ปวดมากจนทนไม่ไหว อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ มีไข้สูง หรืออาการไม่ดีขึ้นใน 1-2 วัน ควรรีบพบแพทย์
3. ปรึกษาแพทย์  
  - หากอาการปวดท้องเกิดขึ้นบ่อยหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
หากต้องการข้อมูลปวดท้องตรงกลาง (https://www.vimut.com/article/abdominal-pain)เพิ่มเติมหรือคำแนะนำเฉพาะเจาะจง สามารถแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ 😊